วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

“นายกฯปู”เข้าร่วมเวทีประชุมผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงที่ญี่ปุ่น





“นายกฯปู”เข้าร่วมเวทีประชุมผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงที่ญี่ปุ่น ย้ำภาคเอกชนญี่ปุ่นเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนศก.ลุ่มน้ำโขง
วันนีี ( 20 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ  นางนลินี ทวีสิน  นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และคณะได้เดินทางเข้าร่วมประชุมผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 4  ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ในเวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของโตเกียว ที่เร็วกว่า กทม. 2 ชม. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันร่วมกับผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขง โดยมีสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น Keidanren และ Japan Chamber of Commerce and Industry (JCCI) เป็นเจ้าภาพเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำ 6 ชาติ

นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารกลางวันว่า  หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้นเราได้ประจักษ์ว่า ภัยพิบัติของประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงเพียงอย่างเดียว แต่ได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตที่เชื่อมโยงระหว่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น สร้างความเสียหายทางธุรกิจเป็นจำนวนมากให้กับภาคธุรกิจของญี่ปุ่น ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้เร่งดำเนินมาตรการฟื้นฟูประเทศจากอุทกภัยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่าน รัฐบาลไทยได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท หรือ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยคุ้มครองครัวเรือนและผู้ประกอบการรวม 1.54 ล้านราย วงเงินคุ้มครองรวม 2.6 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 86,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งความพยายามข้างต้นของรัฐบาลไทย ได้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งประเทศญี่ปุ่นและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ผ่านมาภาคธุรกิจญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นแกนกลางในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และจะสามารถมีบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้นในการสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้ให้แนบแน่นยิ่งขึ้นในอนาคต และขอชื่นชมการใช้ประโยชน์ทางธุรกิจจากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เป็นประเด็นท้าทายอีกประเด็นหนึ่งที่ภาคเอกชนญี่ปุ่นจะสามารถใช้เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันในการพัฒนาจากแนวพื้นที่การคมนาคมขนส่งให้เป็นแนวพื้นที่เศรษฐกิจอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวแสดงความขอบคุณอีกในความร่วมมือของภาคเอกชนญี่ปุ่นที่มีให้กับรัฐบาลไทยในช่วงระหว่างและภายหลังเหตุการณ์อุทกภัย มีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการเร่งรัดกระบวนการฟื้นฟุระบบเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งโดยเร็ว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายกรัฐมนตรีและ ผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขง 5 ประเทศประกอบด้วย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และญี่ปุ่น  เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ณ พระราชวังอิมพีเรียล   และในช่วงค่ำนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขง 5 ประเทศ ณ พระราชวังอิมพีเรียล 

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น