วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รวบต่างชาติมอมยาแบล็กเมล์เรียก2ล้าน





รวบต่างชาติมอมยาถ่ายโป๊แบล็กเมล์เหยื่อส่งให้ลูกชายดูเรียก 2 ล้าน แต่ลูกบอกน้าแจ้งความตามจับได้ สารภาพหาเงินเลี้ยงลูกเมีย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (24 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น .แถลงจับกุมนายบราฮิม จาลูลี หรือแดเนียล อายุ 36 ปี สัญชาติไนจีเรีย ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจับหญิงสาวเรียกค่าไถ่ พร้อมของกลางยานอนหลับ สก๊อตเทป และเชือกจับได้ที่หน้าห้อง 833  ชั้น 8 โรงแรมโรแมนซ์อินน์ ซอยสุขุมวิท 97 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.



พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.  ผู้ต้องหาได้พานางกฤติยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อาชีพทำธุรกิจทัวร์และขายอาหารเสริม ขึ้นรถเก๋งวอลโว่ เอส 60  ทะเบียน  กรุงเทพมหานคร ออกไปจากบ้านพักย่านประเวศ และเช่าโรงแรมโรแมนซ์อินน์ ซอยสุขุมวิท 97 ก่อนจะแอบผสมยานอนหลับให้กินครั้งละ 3 เม็ด รวม 4 ครั้ง จนผู้เสียหายสะลึมสะลือ จากนั้นวันที่ 23 พ.ค.เวลา 20.49 น. ผู้ต้องหาได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ เป็นรูปเปลือยของผู้เสียหาย ไปในโทรศัพท์มือถือลูกชายผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษ เพื่อให้ส่งเงิน 2 ล้านบาท มาให้แลกกับการปล่อยตัวมารดา




พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายรู้จักกับนายแดเนียลทางอินเทอร์เน็ต จากนั้นนายแดเนียลได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อมาพบผู้เสียหาย โดยเดินทางมาได้ประมาณ 9 วันและก่อเหตุจับตัวผู้เสียหายไปเรียกค่าไถ่ จากนั้นลูกชายผู้เสียหาย ได้โทรศัพท์ประสานน้าชาย ให้แจ้งความกับตำรวจ ต่อมาจึงมีการแจ้งความที่ สน.พระโขนง ทางตำรวจจึงตรวจสอบหาแหล่งที่มาก่อนติดตามจับกุมได้  โดยตรวจดูภาพจากอีเมล์ที่ผู้ต้องหาส่งให้ลูกชายผู้เสียหาย พบว่าสามารถจดจำห้องพักได้ เพราะเคยไปนอนพักมาก่อน จึงให้ฝ่ายสืบสวนขับขี่รถจยย.ไปตรวจสอบก็พบรถวอลโว่ของผู้เสียหายจอดอยู่ จึงตรวจเช็ก และขึ้นไปควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ด้านหน้าห้องพักดังกล่าว




ด้านนายแดนนี่รับสารภาพว่า รู้จักกันมา 3-4 เดือน ผ่านทางอินเทอร์เน็ต จากนั้นได้ติดต่อกันผ่านโปรแกรมสไกป์มาตลอด กระทั่งต่อมาได้เดินทางมาที่ประเทศไทย จึงวางแผนจะเรียกค่าตัว เพราะต้องการทรัพย์สินจึงให้กินยานอนหลับและข่มขู่เรียกค่าไถ่ไป 2 ล้านบาท เพราะต้องการเงินเนื่องจากมีภรรยาเป็นชาวมาเลเซียและมีลูก 2 คน  ตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ทำลงไปเพราะนางกฤติยา เป็นคนดีมาก แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย




สำหรับนางกฤติยา นอกจากทำธุรกิจทัวร์และขายอาหารเสริม ยังเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาอีกด้วย โดยภายหลังจากถูกมอมยา คนร้ายยังกลับไปที่บ้านพักผู้เสียหาย และทุบเซฟภายในบ้านและได้ทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ขณะผู้เสียหายพักอยู่บ้านคนเดียว ได้หย่ากับสามี ทำให้ไม่มีใครรู้  แต่ขณะนี้นางกฤติยายังไม่สามารถบอกได้ว่าทรัพย์สินที่มีในเซฟมีเท่าใด เพราะยังไม่สามารถให้การได้ เชื่อว่าบางส่วนคนร้ายจะนำไปขายบ้างแล้ว ตำรวจจะสอบสวนขยายผลต่อไป เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้สูญเสียอิสรภาพ และเรียกค่าไถ่  นำส่งพงส.สน.พระโขนง ดำเนินคดี.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น