วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ร้องดีเอสไอสอบ"แป๊ะเจี๊ยะ"กราวรูด-ผู้ปกครองขู่เผาตัวเองประท้วง





เครือข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ร้องดีเอสไอสอบแป๊ะเจี๊ยะ เผยผู้ปกครองเตรียมเผาตัวเองประท้วงหากรัฐบาลไม่ยกเลิกการตัดสิทธิ์เด็กม.3 เข้าม. 4 ทั้งหมด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (24 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช.) 9 องค์กร นำโดยนายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์ เลขาธิการ ภตช.   เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับสินบน หรือแป๊ะเจี๊ยะในสถานศึกษา และตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้บริหารโรงเรียนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ เพื่อให้ได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษา ระดับป.6 ขึ้นม.1 และระดับ ม.3 ขึ้น ม. 4


นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายผู้ปกครองจากทั่วประเทศว่าได้รับความเดือดร้อน เพราะมีโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาชั้นนำหลายแห่งที่การแข่งขันสูงเรียกค่าแป๊ะเจี๊ยะจากผู้ปกครอง  จึงเป็นตัวแทนผู้ปกครองจากทั่วประเทศนำเอกสารหลักฐานมายื่นให้ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง  โดยข้อมูลที่พบมีการเรียกค่าแป๊ะเจี๊ยะจากผู้ปกครองตั้งแต่ 50,000-1,500,000 บาท  กรณีดังกล่าวถือเป็นการทำให้นักเรียนไม่มีโอกาสเข้าเรียนตามศักยภาพของตนเอง จึงขอเรียกร้องให้ดีเอสไอเข้ามาสอบสวนในเรื่องนี้ พร้อมทั้งตรวจสอบบัญชี ทรัพย์สิน และความเคลื่อนไหวในการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้บริหาร  นายกสมาคมครูและผู้ปกครอง ,ประธานเครือข่ายผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา ที่อาจมีการเรียกรับสินบนดังกล่าว เพื่อให้สังคมไทยปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชั่นและเป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้องเป็นธรรมให้กับสังคมต่อไป


ด้านนายวิวัฒน์ชัย คุณมาตร  ที่ปรึกษากฎหมาย ภตช. เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ระหว่างการประชุม คณะรัฐมนตรี(ครม.) กลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวได้นัดหมายรวมตัวประท้วงบริเวณหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ยกเลิกระเบียบการเลื่อนชั้นจากม.3 สามารถเรียนต่อ ม.4 ได้ทันที ไม่มีคัดออก  หากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องมีผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่งประกาศว่าจะขอเผาตัวเองเพื่อให้เป็นตัวอย่างในการเรียกร้องความเป็นธรรมเช่นเดียวกับประเทศเกาหลีที่มีผู้ปกครองและนักเรียนออกมารวมตัวกันต่อต้านอย่างจริงจัง  โดยผู้ปกครองรายดังกล่าวประกอบอาชีพขายขนมครกหน้าโรงเรียนบดินทรเดชา 1 ซึ่งลูกสาวจบ ม.3 แต่ถูกตัดสิทธิ์เพราะไม่มีเงินไปจ่ายให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นเงิน  1 แสนบาท


ด้านนายธาริต  กล่าวว่า ดีเอสไอจะขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน  หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็พร้อมรับไปดำเนินการสอบสวนตามต่อไป  เบื้องต้นคงยังไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบเอกสารที่มีการร้องเรียกเข้ามา ดังนั้นขอเวลาให้ดีเอสไอทำงานก่อน  ยืนยันว่าจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น