วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

“เดลินิวส์”สานต่อโครงการส่งต่อของขวัญส่งมอบห้องสมุด


ที่โรงเรียนบ้านทุ่งจำเริง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 มี.ค. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และมูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล จัดพิธีส่งมอบห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษามหาราชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการ “เดลินิวส์ส่งต่อของขวัญ” โดยมี ดร.ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด บรรณาธิการบริหาร นสพ.เดลินิวส์ และนายอดิศร กำเนิดศิริ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นประธานในพีธี พร้อมด้วยนายปารเมศ เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต นสพ.เดลินิวส์ และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เดลินิวส์ทีวี น.ส.วิรณี เหตระกูล ศรีนวลนัด รองผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณา นสพ.เดลินิวส์  นายมนูญ ยิ้มสมาน ผู้จัดการประจำเขต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต1 (ภาคเหนือ) จ.เชียงใหม่ นางจงกลนี กล่าวสุนทร นักบริหารงานทั่วไป ระดับ 10   การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต1 (ภาคเหนือ) จ.เชียงใหม่ นายสินอาจ ลำพูนพงศ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 และแขกผู้มีเกียรติร่วมในงาน

ดร.ประภา กล่าวว่าโครงการส่งต่อของขวัญ  โดยการก่อสร้าง สนับสนุนงบประมาณ  และมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน  รวมไปถึงอุปกรณ์กีฬา ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และมูลนิธแสง – ไซ้กี เหตระกูล มีเป้าหมายเพื่อต้องการ “ติดอาวุธทางปัญญา”  ให้กับเด็ก ๆ ในโรงเรียนที่ห่างไกล ในถิ่นทุรกันดาร และด้อยโอกาส  โดยเฉพาะห้องสมุด ถือเป็น “คลังแห่งปัญญา”  สถานที่สำหรับค้นคว้าข้อมูล ความรู้ที่หลากหลาย และยังเป็นการให้ความรู้ด้านอาชีพกับชาวชุมชน  เพราะเชื่อว่า หากเด็ก ๆ ได้รับการต่อยอดทางการศึกษา หรือชุมชนได้รับการต่อยอดทางอาชีพ จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของชุมชน  การอยู่ดีกินดี  และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

“โครงการส่งต่อของขวัญ โดยการสนับสนุนงบประมาณที่ได้รับบริจาคจากทั้งภาครัฐและเอกชนรวมทั้งประชาชนทั่วไป เพื่อก่อสร้างห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษามหาราชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  โรงเรียนบ้านทุ่งจำเริง  รวมไปถึงการมอบอุปกรณ์การศึกษา  และอุปกรณ์กีฬา ให้กับโรงเรียนเครือข่ายอีก 4 โรงเรียน เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่ได้เป็นสื่อกลางในการช่วยยกระดับสังคม แม้จะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ  แต่เชื่อว่า หากทำอย่างต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือ ทั้งจากหน่วยงานต่างๆ และประชาชนก็จะทำให้เด็กและเยาวชนรวมทั้งสามารถดำรงอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง” ดร.ประภา กล่าว

ทางด้านน.ส.วิรณี ในฐานะรองประธานโครงการส่งต่อของขวัญ กล่าวว่า โครงการ ‘เดลินิวส์ส่งต่อของขวัญ’ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 ได้ทำการมอบห้องสมุดให้แก่โรงเรียนต่างๆ มาแล้วทั้งสิ้น 4 โรงเรียนใน จ.กาญจนบุรี  นครราชสีมา  อ่างทอง และสงขลา สำหรับโรงเรียนบ้านทุ่งจำเริง เป็นโรงเรียนแห่งที่ 5 ของโครงการ นอกจากห้องสมุดแล้ว ยังได้จัดเตรียมอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และเครื่องเล่นต่างๆ ให้กับน้องๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งจำเริง รวมถึงโรงเรียนใกล้เคียงอีก 4 แห่งด้วย และในอนาคตอันใกล้นี้เตรียมส่งมอบห้องสมุดโครงการที่ 6 ที่โรงเรียน ตชด.บ้านเขาฉลาด ต.เทพนิมิต อ.เขาสมิง จ.ตราด

ขณะที่ นายอดิศรกล่าวว่า  ในฐานะตัวแทนผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ และประชาชนชาวเชียงใหม่ทุกคน ขอขอบคุณทาง นสพ.เดลินิวส์ และผู้ร่วมบริจาคในโครงการนี้  การสร้างห้องสมุดเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ เมื่อทราบจากทางผู้บริหาร ของเดลินิวส์ ว่า ได้มีการปรับเปลี่ยนกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีมาเป็นสิ่งของบริจาค เพื่อสร้างห้องสมุด ถือเป็นแนวความคิดที่ประเสริฐอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆในพื้นที่ทุรกันดารในการหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง และห้องสมุดที่สร้างขึ้นจะเป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานในพื้นที่ต่อไปด้วย ซึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยังมีพื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลนอีกมาก หากทางเดลินิวส์จะดำเนินโครงการเพิ่มขึ้น ทาง จ.เชียงใหม่ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในทุกเรื่องทาง

ทางด้านนายประภาส จันตาวรรณเดช ผอ.โรงเรียนบ้านทุ่งจำเริง กล่าวว่าโรงเรียนทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1-ประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน 126 คน มีครูผู้สอน รวมผอ.โรงเรียน จำนวน  9 คน ห้องสมุดเดิมมีปัญหาเพราะความทรุดโทรมของตึกเก่าที่ปลวกกินจนได้รับความเสียหาย จึงเกิดแนวคิดสร้างห้องสมุดใหม่ ซึ่งการเข้ามาช่วยเหลือของ มูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล และ “เดลินิวส์” ทำให้ห้องสมุดในฝันของเด็กๆ ประสบความสำเร็จ เพราะที่ผ่านมาผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนด้านการลงแรงมากกว่าทุนทรัพย์  ทั้งนี้ขอขอบคุณหน่วยงานเอกชนที่ส่งต่อของขวัญให้กับเด็กๆ ที่ยากไร้ในครั้งนี้ สิ่งที่ยังต้องการความช่วยเหลือในอนาคตคือเด็กส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง (โปว์) เมื่อแรกเข้ามาเรียนชั้นอนุบาลยังพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงต้องจ้างครูที่รู้ภาษาท้องถิ่นและภาษาไทยเพื่อให้เด็กกล้าเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งเงินทุนดังกล่าวยังขาดแคลน  

ส่วน ด.ญ.จุฑารัตน์  ปู่เงิน  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวว่า ห้องสมุดเดิมคับแคบ ขาดแคลนตู้หนังสือ และหนังสือ โดยเฉพาะนิทานสำหรับเด็ก  หนังสือภาพ หลังจากได้ห้องสมุดใหม่ ทุกคนรู้สึกดีใจมาก จะช่วยกันรักษาให้ดีที่สุด เพราะถือเป็นแหล่งความรู้ให้กับนักเรียนและชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากนี้คนที่ไปเรียนในเมืองยังสามารถกลับมาใช้ห้องสมุดเพื่อหาความรู้ได้ จึงขอขอบคุณนสพ.เดลินิวส์ และผู้มีจิตศัทธาที่ช่วยกันบริจาคทรัพย์และสิ่งของในโครงการนี้ สำหรับในอนาคตสิ่งที่อยากได้ คือ คอมพิวเตอร์ เพราะยังขาดแคลน ซึ่งถือเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ที่ใช้หาความรู้ได้มากขึ้น

สำหรับการส่งมอบห้องสมุดครั้งนี้มี “นานมี บุ๊ค” สนับสนุนหนังสือใส่ห้องสมุด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ สนับสนุนไก่ย่าง 5ดาว แก่เด็กๆ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดกิจกรรมสันทนาการให้เด็กได้สนุกสนาน นายปรุง บุญสุภา  มอบชุดเครื่องนอนผ้านวมให้เด็กนักเรียนทั้ง 126 คน

ทั้งนี้โครงการ “ เดลินิวส์ส่งต่อของขวัญ”  มีจุดเริ่มต้นมาจาก ในวันครบรอบการก่อตั้งน.ส.พ.เดลินิวส์ ซึ่งตรงกับวันที่  28  มี.ค.ของทุกปี หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และคณะบุคคลต่างๆ  ได้นำกระเช้าดอกไม้และของขวัญมาร่วมแสดงความยินดีกับเป็นจำนวนมาก  ซึ่งทางเดลินิวส์รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของทุกท่านที่มีให้ แต่กระเช้าดอกไม้เหล่านั้น สามารถชื่นชมได้เพียงไม่กี่คน และคงความสวยงามเพียงไม่กี่วันดอกไม้ก็เหี่ยวเฉาไป  คณะผู้บริหารของเดลินิวส์ จึงมีความเห็นว่า  หากความปรารถนาดีและน้ำใจจากทุกท่านที่มีต่อชาวเดลินิวส์  สามารถส่งต่อไปสู่สาธารณะชนได้คงจะดี จึงเกิดแนวคิดในการเปลี่ยนรูปแบบการรับของแสดงความยินดี จากกระเช้าดอกไม้และของขวัญ  เป็นการสร้างเสริมโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนของชาติ โดยการสร้างห้องสมุดให้แก่โรงเรียนที่มีความต้องการ  ทางเดลินิวส์จึงอาสาทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการส่งต่อความปรารถนาดีเหล่านั้น  จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ “เดลินิวส์ส่งต่อของขวัญ”

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น