วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

วันกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง


นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงานวันกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง ครั้งที่ 1 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ปัจจุบันกุ้งทะเลเป็นสินค้าที่ทำชื่อเสียงและรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก และสามารถส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก มูลค่าการส่งออกประมาณปีละ 100,000 ล้านบาท โดยกุ้งที่ส่งออกโดยส่วนใหญ่เป็นกุ้งเพาะเลี้ยง ซึ่งตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามูลค่าการส่งออกกุ้งของไทยจะมีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีประเด็นที่กระทรวงเกษตรฯ กังวล คือ มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เนื่องจากการค้าสินค้าเกษตรขณะนี้ได้มีการเปิดเขตการค้าเสรีมากขึ้น ภาษีนำเข้าประเทศต่าง ๆ ลดลงหรือเป็นศูนย์ เพราะฉะนั้น
สิ่งที่ตามมาก็คือ การยกเอาประเด็นการผลิตที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมาเป็นเงื่อนไขสำคัญในการอนุญาตการนำเข้า แม้ว่ากุ้งทะเลของไทยอาจจะกระทบไม่รุนแรงมากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นกุ้งเพาะเลี้ยงไม่ใช่กุ้งที่จับในทะเล แต่ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ก็ขอเน้นย้ำเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งให้เลี้ยงภายในเขตที่กำหนด โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงชายฝั่งซึ่งอาจมีผล กระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่งได้ เช่น การตัดไม้ป่าชายเลนหรือทำให้เกิดมลพิษในแหล่งน้ำ เป็นต้น เพื่อไม่ให้ระบบนิเวศเสียไป
นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นจังหวัดใหญ่ของภาคใต้ มีทั้งภูเขา พื้นที่ราบลุ่มพื้นที่พรุ ป่าชายเลน และชายฝั่งทะเล มีสภาพภูมิประเทศแตกต่างกันถึง 4 ลักษณะ คือน้ำจืด น้ำกร่อย น้ำเปรี้ยว และน้ำเค็ม โดยน้ำเค็มถือว่าเป็นเขตหนึ่งในการแบ่งโซน คือ เขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งกิจกรรมสำคัญในการจัดงานในครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมทางวิชาการ เพื่อเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำปากพนังที่เกี่ยวข้องที่จะช่วยพัฒนาการเพาะเลี้ยงกุ้งในพื้นที่อีกด้วย.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น